วันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เจาะหนิงเซี่ย : อุตสาหกรรมการแปรรูปขนแพะ

เจาะหนิงเซี่ยเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2551 ศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในจีน ณ นครซีอาน ได้เสนอเรื่องราวด้านเกษตรกรรมของหนิงเซี่ยเกี่ยวกับความมหัศจรรย์ของแตงโมโผล่จากหินที่สร้างความร่ำรวยให้แก่เมืองจงเว่ย  อย่างไรก็ดี หนิงเซี่ยไม่ได้เน้นด้านเกษตรกรรมเพียงอย่างเดียว แต่ยังพัฒนาด้านอุตสาหกรรมไปพร้อม ๆ กัน อุตสาหกรรมที่โดดเด่นของหนิงเซี่ยมี 5 ด้าน คือ
·         ด้านพลังงาน เช่น ถ่านหิน ไฟฟ้า และน้ำมัน
·         ด้านแร่ธาตุ เช่น สารแทนทาลัม นีโอเบียม เบริลเลียม แมกนีเซียม อลูมิเนียม ก้อนผงถ่าน และผลึกโพลิซิลิคอน
·         การผลิตอุปกรณ์ที่ทันสมัย เช่น เครื่องจักรระบบดิจิตอล เครื่องบันทึกระบบอัตโนมัติ แบร์ริ่งขนาดใหญ่ และอะไหล่แคสติ่ง
·         การแปรรูปการเกษตร เช่น การแปรรูปขนแพะ เก๋ากี้ เหล้าองุ่น ผลิตภัณฑ์นม และเนื้อวัวเนื้อแกะฮาลาล
·         ด้านเทคโนโลยีชั้นสูง เช่น ด้านเวชภัณฑ์ และด้านข่าวสารข้อมูล
มาวันนี้ เราขอนำเสนออุตสาหกรรมการแปรรูปขนแพะของเขตหนิงเซี่ยกันบ้าง

中卫山羊

เกี่ยวกับขนแพะ
ขนแพะภาษาจีนเรียกว่า หยางหรง (羊绒) ส่วนขนแกะจะใช้คำว่า หยางเหมา (羊毛 ) ขนแพะกับขนแกะต่างกัน ขนแพะจะเป็นขนอ่อน ซึ่งตรงกับคำภาษาจีนว่า หรง () มีความอ่อนนุ่ม เส้นใยละเอียด ส่วนขนแกะจะหยาบกว่า ขนแพะเป็นเส้นใยที่หายาก ล้ำค่าและมีชื่อเสียงล่ำลือทั่วโลก ถือเป็นวัตถุดิบชั้นสูงของอุตสาหกรรมสิ่งทอ ในช่วงฤดูหนาวแพะจะสร้างขนออกมาปกคลุมทั่วร่างกายเพื่อปกป้องความหนาว พอเข้าฤดูร้อนขนของแพะจะหลุดร่วง เพื่อปรับตัวให้เข้ากับอากาศ อากาศยิ่งหนาวขนแพะยิ่งงอกงามและละเอียด จากประวัติศาสตร์แถบแคชเมียร์ในเอเชีย ได้มีการนำขนแพะไปจำหน่ายในทวีปยุโรป ในตลาดระหว่างประเทศมักเรียกขนแพะว่า แคชเมียร์ (Cashmere) คนจีนเลียนเสียงเรียกว่า ไคซือหมี่ (开司米)
ขนแพะมีลักษณะพิเศษคือ ขนละเอียด อ่อนนุ่ม มีความโค้งงอตามธรรมชาติสูง เวลาถักทอจะทำให้เส้นใยเรียงตัวแน่น และรักษาความอบอุ่นได้ดี ซึ่งดีกว่าขนแกะ 1.5 2 เท่า ขนแพะภายนอกจะมีลักษณะเป็นเกล็ดเล็ก ๆ แต่แวววาว เส้นใยตรงกลางมีช่องว่างอากาศ ทำให้น้ำหนักเบา ลื่นและเหนียว สีและความวาวอ่อนโยนตามธรรมชาติ เส้นใยละเอียดสม่ำเสมอ การดูดซับดี สีไม่ตกง่าย มีความยืดหยุ่นดี สวมใส่สบาย ซักแล้วไม่หดตัว ใส่แล้วรู้สึกสบายตัวและให้ความรู้สึกสง่างาม
ขนแพะแบ่งชนิดตามสีธรรมชาติของขนแพะ ได้แก่ ขนแพะสีขาว สีเขียว และสีม่วง ขนแพะที่มีราคาคือขนแพะสีขาว ซึ่งทั่วโลกมีประมาณร้อยละ 30 ของขนแพะทุกสีรวมกัน ส่วนจีนมีขนแพะสีขาวประมาณร้อยละ 40  ปริมาณขนแพะมีจำกัด แพะ 1 ตัวให้ปริมาณขนแพะที่เรียกว่า อู๋เหมาหรง (无毛绒) (ซึ่งเป็นเส้นใยขนแพะบริสุทธิ์ที่ผ่านกระบวนการหวีใยเอาสิ่งสกปรกออกแล้ว จะมีลักษณะนุ่มเบา) เพียง 50 80 กรัม โดยเฉลี่ยต้องใช้แพะ 5 - 8 ตัว ถึงจะผลิตเสื้อ sweater ได้ 1 ตัว

ขนแพะสีขาว
ลักษณะต้องเป็นเส้นใยสีขาว ไม่มีสีอื่นเจือปน มิฉะนั้นจะถูกจัดอยู่ในประเภทขนแพะสีเขียว ทำให้เสียราคา

ขนแพะสีเขียว
เป็นเส้นใยสีขาวปนเทา หรือสีขาวปนดำเล็กน้อย มักเป็นเส้นใยของแพะเขียว (青山羊) และแพะน้ำตาลแดง (棕红山羊) จีนมีการผลิตขนแพะสีเขียวค่อนข้างน้อย
แพะเขียว (青山羊)

ขนแพะสีม่วง
เส้นใยจะมีสีออกม่วงหรือสีน้ำตาลม่วงหรือเป็นการผสมระหว่างเส้นใยสีขาว สีเขียวและสีม่วง มักเป็นเส้นใยของแพะดำ (黑山羊) 
แพะดำ (黑山羊)

นอกจากนี้ทั่วโลกเขตที่ผลิตขนแพะได้ จะต้องเป็นเขตที่สูง หนาว และกึ่งทุ่งหญ้ากึ่งทะเลทรายที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ได้แก่ จีน อินเดีย อิหร่าน ตุรกี รัสเซีย คาซัคสถาน และอัฟกานิสถาน เป็นต้น เขตผลิตขนแพะของจีนที่สำคัญได้แก่ มองโกลเลียใน ซินเจียง เหลียวหนิง ส่านซี กานซู หนิงเซี่ย ซานซี ทิเบต และชิงไห่ โดยขนแพะของมอลโกเลียในเป็นขนแพะที่มีคุณภาพดีที่สุด ส่วนขนแพะอำเภอถงซิน เมืองอู๋จงของเขตหนิงเซี่ย ถูกขนานนามว่าเป็น เมืองแห่งขนแพะ เพราะเป็นเขตจำหน่ายขนแพะดิบที่ใหญ่ที่สุดของจีน และเมื่อปี 2549 เมืองหลิงอู่ เป็นอีกเมืองที่ถูกขนานนามว่า เมืองแห่งอุตสาหกรรมขนแพะคุณภาพยอดเยี่ยมของจีน
         
กระบวนการผลิตขนแพะโดยสังเขป
1. ขนแพะดิบ
เมื่อถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ขนแพะจะเริ่มร่วง คนเลี้ยงสัตว์จะใช้แปรงเหล็กที่ทำเป็นพิเศษแปรงขนแพะ ขนที่ได้เราเรียกว่า ขนแพะดิบ ซึ่งจะมีขนแพะอ่อน ขนหยาบ ผิวหนัง และดินทราย ผสมปนเปกัน ใช้แรงงานคนคัดแยกเอาสิ่งสกปรกที่เห็นด้วยตาเปล่าออกก่อนในขั้นต้น จากนั้นผ่านเครื่องเขย่าทรงกระบอกเอาเศษดินทรายออก ถ้าเป็นขนแพะชนิดสีขาวจะคัดแยกเส้นใยสีดำออก

คนงานกำลังคัดแยกขนแพะดิบ

2. การล้าง
การล้างน้ำยาด้วยสารซักฟอกที่มีความเป็นกลางเพื่อขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมัน โดยผ่านรางแช่น้ำ รางสำหรับการล้างน้ำยา และรางล้างด้วยน้ำเปล่า แต่ละรางจะมีระยะเวลาและการควบคุมอุณหภูมิที่ต่างกัน จากนั้นทำให้แห้ง ความชื้นที่เหมาะสมอยู่ระหว่างร้อยละ 12 17 ขนแพะที่ออกมาจะฟูนุ่มและมีความวาว
3. การหวีเส้นใย
การหวีเส้นใยเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูง คุณภาพของเส้นใยจะดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับเครื่องจักรและเทคนิค เทคนิคการหวีเส้นใยส่วนใหญ่มักถูกปกปิดเป็นความลับ การหวีเส้นใยจะมีน้ำเป็นตัวช่วย ผสมสารอิมัลซิไฟเออร์ (Emulsifier เป็นสารปรุงแต่งที่ทำให้น้ำและน้ำมัน หรือไขมันรวมตัวกันเป็นเนื้อเดียว) ลงไปเล็กน้อย ทิ้งไว้ 8 16 ชั่วโมง จากนั้นจึงสามารถทำการหวีเส้นใยได้ การหวีเส้นใยจำเป็นต้องควบคุมปริมาณความชื้นด้วยเช่นกัน
4. อู๋เหมาหรง
เครื่องจักรหวีเส้นใยกำลังทำงาน ผลิตภัณฑ์ที่ได้คือ อู๋เหมาหรง

สิ่งที่ได้จากการหวีเส้นใย เราเรียกว่า อู๋เหมาหรง (无毛绒) คุณภาพของอู๋เหมาหรงที่ดีควรมีความยาว 32 มิลมิเมตรขึ้นไป มีอัตราขนหยาบได้เพียงไม่เกินร้อยละ 0.3 มีเศษผิวหนังติดมาได้ไม่เกินร้อยละ 0.2 ความละเอียดของเส้นใยต้องน้อยกว่า 16 ไมโครเมตร (ไมโครเมตร เป็นหน่วยวัดความยาว มีขนาดเท่ากับ 1 x 10-6 เมตร มักย่อว่า µm มาจากภาษาอังกฤษ micrometre) และไม่มีเส้นใยอื่นผสม ปัจจุบันมีพ่อค้าจำนวนไม่น้อยในตลาดระหว่างประเทศ เพียงเพื่อต้องการให้ต้นทุนต่ำได้เพิ่มขนแกะหรือเส้นใยอื่นผสมปนเป หรือไม่ก็ใช้อู๋เหมาหรงความยาวเพียง 28 30 มิลมิเมตร หรือมีความละเอียดของเส้นใยมากกว่า 16 ไมโครเมตร (ต่ำกว่ามาตรฐาน) สำหรับผลิตภัณฑ์ยี่ห้อระดับสูง ผู้เชี่ยวชาญจะใช้อู๋เหมาหรงที่มีความละเอียดประมาณ 13.5 - 15 ไมโครเมตร และความยาวประมาณ 38 มิลลิเมตร
5. การปั่นเส้นใยให้เป็นเส้นใยยาว เส้นด้าย และสเวตเตอร์
อุตสาหกรรมการปั่นอู๋เหมาหรงให้เป็นเส้นใยยาว

หลังจากที่ได้อู๋เหมาหรงสามารถทำการจำหน่ายให้กับบริษัทผลิตเสื้อผ้าต่อไป โดยทั่ว ๆ ไปอู๋เหมาหรงที่ได้จะนำมาปั่นเส้นใยให้เป็นเส้นใยยาวเพื่อทำเป็นเส้นด้าย หรือนำไปผ่านการย้อมก่อนที่จะนำมาทำเป็นเส้นด้าย และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ต่อไป

1. ภาพขนแพะดิบ และภาพคนงานช่วยกันคัดแยกขนแพะดิบ
2. เครื่องล้างขนแพะและหวีเส้นใยในเครื่องเดียวกัน
3. การหวีเส้นใย
4. อู๋เหมาหรง
5. เส้นใยยาว
点击放大
羊绒纱2
6. เส้นด้ายที่ยังไม่ได้ย้อม และเส้นด้ายที่ผ่านการย้อมแล้ว
7. เสื้อ  sweater

 ความเป็นมาของอุตสาหกรรมเส้นใยขนแพะในหนิงเซี่ย
          ช่วงต้นทศวรรษ 1980 สินค้าเกี่ยวกับขนแพะออกโลดแล่นสู่ตลาดโลก จีนจึงได้มีการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมการเลี้ยงแพะ และอุตสาหกรรมการแปรรูปขนแพะ เนื่องจากหนิงเซี่ยเดิมเป็นเขตผลิตขนแพะที่สำคัญอยู่แล้ว และยังเป็นศูนย์กระจายและแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าขนสัตว์ไปสู่ภาคเหนือของจีน จากการเดินทางไปมาซื้อขายกันทำให้เกิดการค้าขนแพะขึ้นที่อำเภอถงซินและอำเภอหลิงอู่ (ขณะนั้นยังเป็นแค่อำเภอ) จนถึงปี 2531 อำเภอถงซิน เมืองอู่จง ได้กลายเป็นแหล่งกระจายสินค้าขนแพะที่ใหญ่ที่สุดในจีน ปัจจุบันอุตสาหกรรมขนแพะของอำเภอถงซินมีพนักงานเกือบ 10,000 คน ยอดจำหน่ายปีละ 2,800 ตัน
          หลังจากมีตลาดการค้าขนแพะ หนิงเซี่ยจึงเริ่มมีอุตสาหกรรมการแปรรูปขนแพะ และช่วงกลางทศวรรษที่ 1990 หนิงเซี่ยเริ่มมีอุตสาหกรรมการหวีเส้นใย แต่ยังมีขนาดเล็ก กระทั่งหลังปี 2543 หนิงเซี่ยได้มีการพัฒนาอุตสาหกรรมขนแพะอย่างรวดเร็ว มูลค่าของอุตสาหกรรมขนแพะปี 2545 เท่ากับ 1,200 ล้านหยวน และมีอัตราการเติบโตในแต่ละปีสูงขึ้นร้อยละ 40 และคาดว่าปี 2551 จะมีมูลค่าอุตสาหกรรมขนแพะมากกว่า 7,000 ล้านหยวน ปัจจุบันหนิงเซี่ยกลายเป็นเขตแปรรูปขนแพะที่ใหญ่ติด 1 ใน 3 ของจีน  อีกทั้งคุณภาพของขนแพะยังใกล้เคียงกับขนแพะโมแฮร์ (Mohair คือขนแพะจากแพะพันธุ์แองโกลา ซึ่งมีขนยาวคล้ายไหม)

ลักษณะเด่นของอุตสาหกรรมเส้นใยขนแพะเขตหนิงเซี่ย
  1. เป็นอุตสาหกรรมที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว
ไม่กี่ปีมานี้ อุตสาหกรรมเส้นใยขนแพะของหนิงเซี่ยเติบโตอย่างรวดเร็ว และพัฒนาจนเป็นเขตอุตสาหกรรมการแปรรูปขนแพะที่ใหญ่ติด 1 ใน 3 ของจีน ปริมาณการซื้อขายขนแพะในตลาดอยู่ที่ 6,000 7,000 ตัน/ปี การแปรรูปเส้นใยขนแพะที่เรียกว่า อู๋เหมาหรง มีประมาณ 4,000 ตัน/ปี หรือเท่ากับร้อยละ 60 ของปริมาณที่ผลิตได้ทั้งประเทศ
ปัจจุบัน เขตหนิงเซี่ยมีโรงงานแปรรูปขนแพะทั้งหมด 90 แห่ง อยู่ในรูปบริษัท 28 แห่ง และเครือบริษัท 7 แห่ง ได้แก่ เครือบริษัทจงอิ๋น (中银) เจียหยวน (่嘉源) หรงฉาง (荣昌) St.Edenweiss (圣雪绒)  Master Cashmere (马斯特) เต๋อไห่ (德海) และเซิงไห่ (生海) โดยเป็นบริษัทที่มียอดขายต่อปีมากกว่า 100 ล้านหยวน 14 แห่ง และบริษัทที่มียอดขายมากว่า 1,000 ล้านหยวน 1 แห่ง บริษัทเหล่านี้จะให้ความสำคัญต่อการจัดการ การพัฒนาคุณภาพสินค้า การใช้เครื่องจักรที่ทันสมัย การคิดค้นสินค้าใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มความสามารถการแข่งขันในตลาด และสร้างความร่วมมือกับบริษัทต่างประเทศต่าง ๆ เช่น บริษัท Dawson International ของอังกฤษ และ Switzerland and Eastern Topaz Alpha ของสวิตเซอร์แลนด์
เครือบริษัท Master Cashmere และ St.Edenweiss เป็นบริษัทที่มียอดขายติด 50 อันดับแรกของธุรกิจทอเส้นใยของจีนโดยอยู่ในอันดับที่ 15 และ 22 ตามลำดับ และยังเป็นบริษัทที่ติด 1 / 100 ของบริษัทส่งออกเส้นใยของจีน ส่วนเครือบริษัทจงอิ๋น ถือเป็นบริษัทส่งออกอู๋เหมาหรงและสินค้าเกี่ยวกับขนแพะมากเป็นอันดับ 1 ของจีนเป็นระยะเวลา 4 ปีซ้อน (ตั้งแต่ปี 2547 2550)  คาดว่าในปี 2551 มูลค่าการผลิตของอุตสาหกรรมขนแพะของหนิงเซี่ยจะทะลุถึง 4,500 ล้านหยวน ซึ่งทำให้ชาวหนิงเซี่ยมีงานทำคิดเป็นร้อยละ 60 ของผู้ที่สำเร็จการศึกษา สร้างรายได้ให้แก่แรงงานหนิงเซี่ย
  1. มีกลุ่มอุตสาหกรรมการแปรรูปขนแพะที่โดดเด่น
ปัจจุบัน หนิงเซี่ยมีกลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปขนแพะที่โดดเด่น 2 แห่ง คือ เขตอุตสาหกรรมขนแพะอำเภอถงซิน เมืองอู่จง และเขตอุตสาหกรรมขนแพะเมืองหลิงอู่ ทั้งสองเขตมีบริษัทรวม 77 แห่ง เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีเครื่องจักรสำหรับการหวีเส้นใยถึงร้อยละ 90 ของเขตหนิงเซี่ย  
*        เขตอุตสาหกรรมขนแพะอำเภอถงซิน ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอำเภอถงซิน ห่างจากตัวอำเภอราว 1.5 กิโลเมตร มีพื้นที่ 2,200 หมู่ ( 1 หมู่ ประมาณ 667 ตารางเมตร) มีจุดเด่นคือ ค่าแรงต่ำและเป็นศูนย์จำหน่ายขนแพะดิบที่มีชื่อเสียง
*        เขตอุตสาหกรรมขนแพะเมืองหลิงอู่ เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2546 มีพื้นที่ 3,600 หมู่ จุดเด่นคือการคมนาคมสะดวก เน้นการแปรรูปและการผลิตขนแพะอู๋เหมาหรงชั้นดี
นายจาง เสี่ยวซู (Zhang Xiaosu) นายหลี่ รุ่ย (Li Rui)
และนายเฉิน โสวซิ่น (Chen Shouxin) ผู้นำของเขตหนิงเซี่ย (ภาพซ้ายมือ)
พร้อมสมาชิกคณะวิจัย (ภาพขวามือ) เข้าเยี่ยมชมเขตนิคมอุตสาหกรรมขนแพะเมืองหลิงอู่ เขตหนิงเซี่ย

  1. มีเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ทันสมัย
ก่อนปี 2546 อุตสาหกรรมการแปรรูปขนแพะของหนิงเซี่ยมักใช้แรงงานในการผลิตเป็นหลักและเครื่องจักรที่ใช้ไม่มีความซับซ้อนใด ๆ  ปริมาณการผลิตขนแพะอู๋เหมาหรงที่ได้จึงต่ำ แต่ไม่กี่ปีมานี้บริษัทส่วนใหญ่ได้ปรับเปลี่ยนเครื่องล้างเส้นใย เครื่องหวีเส้นใย และเครื่องถักเส้นใยให้ทันสมัยยิ่งขึ้น เป็นเทคโนโลยีการแปรรูปที่ก้าวหน้าและเชื่อมต่อกันจบจนกระบวนการผลิต เพื่อลดความเสียหายของเส้นใยและเพิ่มอัตราขนแพะอู๋เหมาหรงที่ได้ให้สูงขึ้น
นอกจากนี้เขตอุตสาหกรรมขนแพะเมืองหลิงอู่ยังได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ซีอาน สร้างเขตวิจัยการผลิตขนแพะ เพื่อทำให้อุตสาหกรรมขนแพะของหนิงเซี่ยกลายเป็นแหล่งเครื่องจักรที่ทันสมัยและมีเทคโนโลยีการหวีเส้นใยที่ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
ภายในโรงงานการปั่นเส้นใยยาว
การปฏิบัติงานใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย

  1. มีกลยุทธ์ที่ดี
ปัจจุบันการแปรรูปขนแพะของหนิงเซี่ยมีเครื่องจักรที่ทันสมัย คุณภาพโดดเด่น การซื้อขนแพะดิบยึดคุณภาพดีจากแหล่งผลิตเป็นหลัก การแปรรูปและเครื่องจักรต่าง ๆ ได้ปรับเปลี่ยนเทคนิคเพื่อให้เกิดงานศิลปะที่สร้างสรรค์มากขึ้น ได้รับการรับรองระบบมาตรฐาน ISO 9000 (การรับรองระบบการบริหารคุณภาพระหว่างประเทศ) และ ISO 14000 (การรับรองระบบสิ่งแวดล้อม) เกิดภาพลักษณ์ที่ดีกลายเป็น ขนแพะหนิงเซี่ยคุณภาพเยี่ยม ตอบสนองความพอใจของลูกค้าระดับสูงทั้งในและต่างประเทศ คุณภาพของอู๋เหมาหรงของเขตหนิงเซี่ยเป็นที่ยอมรับของวงการขนแพะทั่วโลก ลูกค้าหลายคนกล่าวว่า ถ้าหากต้องการซื้อขนแพะอู๋เหมาหรงคุณภาพดี ต้องไปที่หนิงเซี่ย และเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2549 สมาคมอุตสาหกรรมสิ่งทอของจีนได้ขนานนามเมืองหลงอู่เขตหนิงเซี่ยว่าเป็น เมืองแห่งอุตสาหกรรมขนแพะคุณภาพยอดเยี่ยมของจีน  การส่งออกอู๋เหมาหรงและสินค้าขนแพะของหนิงเซี่ยมีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกปี และตั้งแต่ปี 2549 หนิงเซี่ยกลายเป็นเขตที่มีการส่งออกอู๋เหมาหรงมากเป็นอันดับ 1 ของประเทศ
การส่งออกอู๋เหมาหรงและสินค้าขนแพะของหนิงเซี่ย
พ.ศ.
ปริมาณการส่งออก
อู๋เหมาหรง (ตัน)
เสื้อ sweater (ล้านตัว)
2548
857
0.45
2549
1,018
1.12
2550
1,031
1.12

  1. มีการผลิตแบบซับซ้อน (การแปรรูปเชิงลึก)
อุตสาหกรรมการแปรรูปขนแพะของหนิงเซี่ยในปัจจุบันมีความสามารถในการผลิตแบบซับซ้อนมากขึ้น เป็นการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์และถือเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมอู๋เหมาหรง การผลิตเส้นใย การผลิตเส้นด้าย และเสื้อ sweater ให้ได้มาตรฐานระหว่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นแรงดึงดูดเงินทุนเพิ่มขึ้น  

เป้าหมายในการพัฒนาอุตสาหกรรมขนแพะของหนิงเซี่ย
รัฐบาลหนิงเซี่ยได้กำหนดแนวคิดการพัฒนาอุตสาหกรรมขนแพะว่า ภายในปี 2553 ยอดจำหน่ายของผลิตภัณฑ์ขนแพะจะต้องสูงถึง 10,000 ล้านหยวน และจะพัฒนาหนิงเซี่ยให้เป็นเขตแปรรูปผลิตภัณฑ์ขนแพะและเป็นศูนย์จำหน่ายอู๋เหมาหรงและขนแพะดิบที่ใหญ่ที่สุดในจีน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ หนิงเซี่ยจะต้องสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ใช้ตลาดภายในประเทศและตลาดระหว่างประเทศและทรัพยากรขนแพะที่มีอยู่ เพื่อเพิ่มศักยภาพของศูนย์จำหน่ายอู๋เหมาหรงและขนแพะดิบ นำข้อได้เปรียบของการแปรรูปอู๋เหมาหรงชั้นยอดมาขยายขนาดของอุตสาหกรรมและขนาดของตลาด รวมทั้งขยายการแปรรูปเชิงลึกและความสามารถในการผลิตขนแพะชั้นดี

กลยุทธในการพัฒนาอุตสาหกรรมขนแพะของหนิงเซี่ย
1. พยายามสร้างให้หนิงเซี่ยกลายเป็นศูนย์รับซื้อและจำหน่ายขนแพะดิบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ขณะเดียวกันศูนย์แห่งนี้จะมีระบบการประกาศข่าวสารที่ดี มีการตรวจสอบคุณภาพที่ได้มาตรฐาน และมีการค้าขายที่ยุติธรรมและเปิดเผย เพื่อให้กลายเป็นศูนย์ประมูลขนแพะระดับนานาชาติ ที่ดึงดูดนักธุรกิจทั้งในและนอกประเทศเข้ามาแข็งขันในตลาดขนแพะมากขึ้น
การแข่งขันประมูลขนแพะที่อำเภอถงซิน เมืองอู่จงเขตหนิงเซี่ย

2. สร้างเขตอุตสาหกรรมขนแพะเพื่อดึงดูดเงินลงทุน รัฐบาลควรมีนโยบายให้สิทธิพิเศษและการบริการที่ดี เพื่อดึงดูดนักธุรกิจทั้งในและต่างประเทศเข้ามาจัดตั้งโรงงาน
3. ส่งเสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกี่ยวกับขนแพะให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น โดยการสร้างความร่วมมือกับนักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญ และองค์กรค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้หนิงเซี่ยกลายเป็นแหล่งผลิตขนแพะชั้นยอดของประเทศ     
4. ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปจากการผลิตขั้นพื้นฐาน ให้กลายเป็นการผลิตแบบซับซ้อน เพื่อจะได้พัฒนาขนแพะให้มีมูลค่าเพิ่มและกลายเป็นสินค้าระดับแนวหน้ามากขึ้น
5. เพิ่มความร่วมมือกับเขตอุตสาหกรรมขนแพะภายในประเทศและธุรกิจขนแพะระดับนานาชาติมากขึ้น เช่น องค์กร IWTO (International Wool Textile Organization ) สถาบัน CCMI  (Cashmere and Camel Hair Manufacturers Institute) และสมาคมธุรกิจสิ่งทอขนสัตว์แห่งชาติจีน อีกทั้งมีการจัดงานแสดงสินค้าขนแพะระหว่างประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนและส่งเสริมข้อดีซึ่งกันและกัน
6. มีการสร้างตรายี่ห้อ (Brand) เป็นของตนเอง นอกจากตรายี่ห้อ St.Edenweiss (圣雪绒) ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศแล้ว ยังต้องสร้างความแข็งแกร่งให้กับตรายี่ห้ออื่น ๆ ต่อไป เช่น Rong Dian (绒典) และPa Xue Ran (帕雪兰)

อีกหนึ่งโอกาสการลงทุนของไทย
อุตสาหกรรมขนแพะเป็นอีกหนึ่งโอกาสการลงทุนที่หนิงเซี่ยกำลังกวักมือเรียกนักลงทุนให้เข้ามาร่วมมือทั้งทางด้านเม็ดเงินและเทคโนโลยีชั้นสูง หากนักลงทุนไทยท่านใดสนใจสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เวปไซด์ http://www.nxinvest.gov.cn/



แหล่งข้อมูลและรูปภาพ
http://detail.cn.china.cn/provide/detail,1315453970.html?id=424957
http://www.sitong-cn.com/product1.asp
http://www.nxinvest.gov.cn/red/news/detail.do?newsId=4273


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น